เมนู

พึงทราบอรรถแห่งมรณะเป็นทุกข์


อนึ่ง พึงทราบวินิจฉัยในคำนี้ว่า พึงทราบอรรถแห่งมรณะเป็น
ทุกข์
ต่อไป. แม้มรณะนี้ตัวเองก็ไม่เป็นทุกข์ แต่พระองค์ตรัสว่า ชื่อว่า
เป็นทุกข์ เพราะเป็นวัตถุที่ตั้งแห่งทุกข์ เพราะเวทนามีในสรีระแม้เกิดในที่สุด
แห่งความตายจะเผาสรีระ เหมือนคบหญ้าติดไฟที่ถือไว้ทวนลม ในเวลาที่นิมิต
แห่งนรกเป็นต้นปรากฏ โทมนัสรุนแรงย่อมเกิดขึ้น.
พึงทราบมรณะว่าเป็นทุกข์ โดยเป็นวัตถุที่ตั้งแห่งทุกข์แม้ทั้ง 2 นี้
ด้วยประการฉะนี้.
อีกอย่างหนึ่ง
เพราะความตายนี้ เป็นวัตถุที่ตั้งแห่ง
ทุกข์ใจ ของคนใกล้ตายที่เป็นคนลามกซึ่ง
เห็นนิมิต มีกรรมอันลามกเป็นต้นอยู่โดย
ลำดับ สำหรับคนดี ผู้ไม่สามารถข่มความ
พลัดพรากจากวัตถุอันเป็นที่รัก (คือสัตว์และ
สังขารอันเป็นที่รักใคร่) ได้ แม้ทุกข์ซึ่งเกิด
ในสรีระมีโรคลมอันตัดข้อต่อ และเส้นเอ็น
เป็นต้น ซึ่งข่มไม่ได้ แก้ไขไม่ได้ ที่มีแก่
เหล่าสัตว์ทั้งปวงที่กำลังถูกโรคเสียดแทงเป็น
ธรรมดา โดยไม่แปลกกันนี้ ฉะนั้น มรณะนี้
พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า เป็นทุกข์
เหมือนกัน.

ว่าด้วยทุกข์ทั้ง 3 ดังข้าศึก 3 คน


อีกนัยหนึ่ง ขึ้นชื่อว่า ชาติ ชรา และมรณะเหล่านี้ ย่อมเที่ยวแสวงหา
โอกาส ดุจปัจจามิตรผู้เข่นฆ่าสัตว์เหล่านี้ คือ เปรียบเหมือนข้าศึก 3 คนของ
บุรุษ ผู้คอยโอกาสเฝ้าดูอยู่ คนหนึ่งพูดว่า ข้าจักกล่าวชมชื่อป่าโน้นแล้ว
จักพาเขาไปในป่านั้น ในเรื่องนี้ไม่มีอะไรที่ทำได้ยากสำหรับเรา. คนที่ 2 พูดว่า
ในเวลาที่เจ้าพาคนนี้ไป เราจักโบยตีการทำให้ทุรพล ในเรื่องนี้ไม่มีอะไรยาก
สำหรับเรา. คนที่ 3 พูดว่า เมื่อเจ้าโบยตีทำบุรุษนี้ให้หมดกำลังแล้ว ชื่อว่า
เอาดาบคมตัดศีรษะ จงเป็นหน้าที่ของเราเถิด ดังนี้. ข้าศึกทั้ง 3 นั้นครั้นพูด
อย่างนั้นแล้ว ก็กระทำอย่างนั้น.
ในการอุปมานั้น ชื่อว่า การคร่าออกจากวงของเพื่อนและญาติแล้ว
ให้เกิดในภพใดภพหนึ่ง ดุจเวลาที่ข้าศึกคนที่หนึ่งกล่าวชมป่าแล้วพาบุรุษนั้นไป
ในป่านั้น พึงทราบว่า เป็นหน้าที่ของชาติ (ความเกิด). การที่ขันธ์ซึ่งเกิดขึ้น
แล้วตกไป (คืออ่อนกำลังลง) แล้ว ทำให้เป็นผู้พึ่งคนอื่นและมีเตียงนอนเป็น
เบื้องหน้า ดุจข้าศึกคนที่ 2 โบยตีทำให้เป็นผู้ทุรพล พึงทราบว่า เป็นหน้าที่
ของชรา. การให้ถึงความสิ้นชีวิต ดุจข้าศึกคนที่ 3 เอาดาบคมตัดศีรษะ
พึงทราบว่า เป็นหน้าที่ของมรณะ ฉะนั้น.
อีกประการหนึ่ง ในทุกข์ทั้ง 3 นี้ พึงเห็นชาติทุกข์ เหมือนการ
เข้าสู่ทางกันดารใหญ่ที่มีโทษ. พึงเห็นชราทุกข์ เหมือนความเป็นผู้ทุรพลที่
อดข้าวและน้ำในทางกันดารนั้น. พึงเห็นมรณทุกข์ เหมือนการให้ถึงความ
พินาศ ด้วยเครื่องผูกมัดเป็นต้น แก่คนทุรพลผู้มีความพยายามให้อิริยาบถ
เป็นไปถูกขจัดแล้วแล.